Skinpress Rss

วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

รอยแดงจากสิว (Macular erythema)

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ บล้อกบิวตี้ฟอร์ยู ทุกท่าน

เมื่อเราหายจากอาการเป็นสิว หรืออาการเป็นสิวทุเลาลงแล้ว สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราต้องมานั่งกังวลใจอยู่อีกนานก็คงจะเป็นเรื่องของอารยธรรมหรือร่องรอยของสิวที่ยังคงอยู่บนใบหน้าของเราน่ะนะคะ



รอยแดงจากสิว


ร่องรอยของสิวที่เกิดขึ้นบนผิวของเรานั้น ส่วนใหญ่จะเป็นรอยแดง ๆ ดำ ๆ ซึ่งเกิดจากการอักเสบของผิวเมื่อเกิดสิวนั่นเอง แล้วเราจะทำอย่างไรให้รอยที่ไม่น่าพิศมัยเหล่านั้น หายโดยเร็วได้ล่ะ วันนี้บล้อก บิวตี้ฟอร์ยู มีสาระความรู้และวิธีการรักษามาฝากกันค่ะ

เมื่อเรา เป็นสิว...ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี หรือมีปัญหาสิวที่มีอาการอักเสบมากๆ หลังหายแล้วมักทิ้งรอยแผลเป็นไว้เสมอ เนื่องจากปฏิกริยาการอักเสบของสิวทำให้เกิดการทำลายเซลล์ผิวหนังและคอลลาเจนในชั้นหนังแท้

ดังนั้นแม้ว่าเราไม่ได้แกะ เกา หรือบีบสิวก็ตาม มันก็สามารถทิ้งรอยแผลเป็นไว้ได้อยู่ดีนั่นล่ะนะคะ เมื่อมีสิวจึงควรรีบรักษาเพื่อลดการอักเสบของสิวและลดการเกิดแผลเป็นจากสิวที่จะตามมา

แผลเป็นที่เกิดจากสิวที่พบบ่อยมาก คือ ชนิดที่มีการเปลี่ยนแปลงของสีผิวค่ะ มีก้อนสีแดงคล้ำๆ ซึ่งจัดเป็น รอยแดงจากสิว (Macular erythema)

ในกรณีที่เกิดในคนผิวคล้ำ บางครั้งจะมีลักษณะเป็นรอยสีน้ำตาลหรือดำร่วมด้วย (Postinflammatory Hiperpigmentation) และถ้าเราสังเกตดีๆจะพบว่าในรอยแดงหรือรอยคล้ำเหล่านี้ หลายๆแห่งจะมีลักษณะของหนังที่ยุบตัวลงซึ่งเป็นลักษณะเริ่มแรกของการเกิด รอยแผลเป็นชนิดบุ๋มตามมาอีก (Atrophic Scar, Pitted Scar)

การรักษารอยแผลเหล่านี้สามารถทำได้โดยการทายาที่มีส่วนผสมของสารที่สามารถทำให้สีจางลงค่ะ เช่น กรดผลไม้ (AHA, BHA) กรดวิตามิน A (RETINOIC ACID), LICORICE, ARBUTIN, VITAMIN C การทานวิตามิน A, วิตามิน E เพื่อฟื้นฟูสภาพผิวและเร่งการซ่อมแซมเซลผิวหนัง

นอกจากนี้ปัจจุบันยังมีนวัตกรรม เลเซอร์ ทางการแพทย์เพื่อรักษารอยแดงคล้ำจากสิว ลดการเกิดแผลเป็นสิวและลบเลือนรอยแผลเป็นที่มีอยู่แล้วโดยใช้ V-beam Laser และ Smoothbeam Laser ซึ่งจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูสภาพผิวได้อย่างเป็นธรรมชาตินับเป็นวิธีที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และไม่พบผลข้างเคียงใดๆ

การรักษาใช้เวลาเพียง 15-40 นาทีเท่านั้นค่ะ ก็สามารถเห็นผลการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำการรักษา โดยหลังการรักษาประมาณ 1-2 สัปดาห์ ก็จะสังเกตเห็นว่ารอยแดงคล้ำจากสิวจางลง ประมาณ 20% และรอยบุ๋มที่เกิดจากสิวก็สามารถตื้นขึ้นและมีขนาดเล็กลงได้อีกด้วย หลังการรักษามีเพียงรอยแดงจางๆ เล็กน้อยปริมาณ 15-20 นาที ก็จะหายไปเอง สามารถแค่หน้าและกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ

ทั้งนี้ทั้งนั้น หากเราไม่ได้รักษาด้วยวิธีทางการแพทย์หรือการทายา รอยแดงรอยดำเหล่านั้นก็จะจางลงเองน่ะนะคะ การใช้ยา การทำทรีทเม้นท์ หรือการทำเลเซอร์นั้น เป็นเพียงการย่นระยะเวลาเท่านั้นเอง โดยทั่วไปแล้ว รอยแดงรอยดำที่เกิดจากสิว จะอยู่บนผิวเราประมาณ 6-12 เดือน หากเราหมั่นดูแลรักษาความสะอาด และไม่มีสิวเม็ดใหม่ ๆ ผุดขึ้นมาอีก ผิวของเราก็จะค่อย ๆ ฟื้นคืนสภาพขึ้นมาได้ด้วยตัวเองทีละน้อยค่ะ :)


เรื่องน่าอ่าน