Skinpress Rss

วันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2555

แก้ไขหนังตาตกด้วยวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด

อาการ หนังตาตก นั้น นอกจากจะทำให้การมองเห็นของลานสายตาลดลงแล้ว ยังทำให้ผู้ที่มีอาการแลดูมีอายุ เหน็ดเหนื่อย อ่อนล้า และแก่กว่าวัยอีกด้วยน่ะนะคะ

ปัจจุบันนี้มีการ แก้ไขอาการหนังตาตก หลายวิธีด้วยกัน ทั้งการแก้ไขด้วยการศัลยกรรมตกแต่งหรือการผ่าตัด ไปจนกระทั่งถึงวิธีการแก้ไขด้วยวิธีที่เจ็บตัวน้อยกว่า และพักฟื้นน้อยกว่าอีกด้วย ซึ่งวิธีต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยมเหล่านั้นก็มีดังนี้ค่ะ

1. การแก้ไขอาการหนังตาตกด้วยการฉีดโบท็อกซ์ (BOTOX)

การฉีดโบท็อกซ์ นั้น ก็เพื่อคลายการทำงานของมัดกล้ามเนื้อที่ดึงเปลือกตาตกลงมาค่ะ ผลคือกล้ามเนื้อมัดนั้นจะถูกคลาย แล้วเปลือกตาจะเปิดกว้างขึ้น จึงช่วยแก้ปัญหาหนังตาตกได้ แต่โบท็อกซ์มีฤทธิ์อยู่ชั่วคราวน่ะนะคะ คืออยู่ได้ ประมาณ 6 เดือน และสามารถกลับมาฉีดซ้ำอีกหากต้องการ


2. การฉีดฟิลเลอร์ (Filler)

การฉีดฟิลเลอร์นั้น ก็คือการฉีดสารเติมเต็มที่มีความปลอดภัยเข้าไปบริเวณใต้รอยต่อตำแหน่งคิ้วค่ะ โดยแพทย์จะทำการฉีดแพทย์เพื่อดันให้หนังตายกขึ้นได้เล็กน้อย และผลของมันจะอยู่ได้ประมาณ 10 เดือน

3. การใช้ไหมละลาย

วิธีนี้จะใช้ไหมละลายร้อยบริเวณเหนือคิ้ว ซึ่งจะทำให้คิ้วและเปลือกตายกขึ้นได้นานกว่าสองวิธีแรก โดยผลของการร้อยไหมละลายจะอยู่ได้ประมาณ 1 ปี


4. การใช้เครื่องมือยกกระชับ

เครื่องมือที่สามารถช่วยยกกระชับผิวได้ เช่น Thermage หรือ Ulthera จะช่วยยกกระชับผิวหนังตาได้ค่ะ แต่แน่นอนว่าเมื่อระยะเวลาผ่านไป หนังตาก็จะค่อย ๆ กลับมาตกเช่นเดิม จึงต้องมีการทำซ้ำเมื่อผ่านไปสักระยะหนึ่งแล้วน่ะนะคะ

จะเห็นได้ว่า วิธีการแก้ไขปัญหาหนังตาตกด้วยการไม่ผ่าตัดนั้น ล้วนเป็นวิธีแก้ไขชั่วคราว ที่เมื่อทำไปแล้วก็ต้องกลับมาทำซ้ำใหม่อีกค่ะ หากต้องการแก้ไขอาการหนังตาตกให้อยู่ได้นานหลายปีก็คงต้องพึ่งพาการแก้ไขด้วยวิธีการผ่าตัด ซึ่งแน่นอนว่า ก็ขึ้นอยู่กับปัญหาเฉพาะตัวของอาการหนังตาตกในคนไข้แต่ละรายด้วยน่ะนะคะ





ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2555

การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดแก้ไขหนังตาตก



สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ บล้อกบิวตี้ฟอร์ยูทุกท่าน หลังจากที่เพื่อน ๆ ตัดสินใจเข้ารับการรักษาอาการหนังตาตกด้วยการผ่าตัดแล้วน่ะนะคะ เราจะมาดูกันค่ะ ว่าผลลัพท์ที่ได้หลังจากการผ่าตัดแก้ไขอาการหนังตาตกนั้นเป็นอย่างไรบ้าง และควรดูแลตัวเองอย่างไรหลังเข้ารับการผ่าตัด


การ ผ่าตัดแก้ไขอาการหนังตาตก นั้น ใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ ปกติแล้วเมื่อได้รับการรักษาอาการหนังตาตกด้วยการผ่าตัด ผลของการผ่าตัดนั้นจะอยู่ีได้ราว ๆ 5-10 ปี แต่ผลลัพธ์ที่ได้จากการผ่าตัดแก้ไขปัญหากล้ามเนื้อตาตกข้างเดียว อาจจะไม่ 100% (เมื่อเทียบกับกรณีหนังตาที่ตกจากอายุ) คืออาจจะเห็นผลลัพธ์ประมาณ 80-90% เท่านั้น





ความเสี่ยง และ ภาวะแทรกซ้อน 

หากการผ่าตัดถูกดำเนินการโดยศัลยแพทย์ที่เชี่ยวชาญ ภาวะแทรกซ้อนแทบจะไม่เกิดขึ้น และ หากเกิดจะเป็นเพียงเลือดไหล, ติดเชื้อ และ อาการชา เท่านั้น คนไข้สามารถลดภาวะแทรกซ้อนโดยปฏิบัติตามคำสั่งก่อนและหลังของศัลยแพทย์ และการนัดตรวจดูอาการ ภาวะแทรกซ้อนเล็กอื่น ๆ เช่น อาการภาพซ้อน หรือเบลอ 2-3 วัน, หนังตาบวม, รอยแผล และอาการหลังผ่าตัดอาจหายไม่พร้อมกัน รอยเขียว หรือบวม จะเกิดมากน้อยตามแต่ละบุคคล (จะเกิดมากในช่วงอาทิตย์แรก และจะหายภายใน 2 สัปดาห์ หรือ หนึ่งเดือน) 

นอกจากนี้แล้วผลข้างเคียงและข้อแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นหลังเข้ารับการรักษา ก็จะมีอาการบวมในช่วง 2-3 วันแรก ความเสี่้ยงอีกประการหนึ่งก็คือกรณีที่แพทย์ตัดหนังตาออกมากจนเกินไป หรือมีการเย็บรั้งสูงเกินไป อาจทำให้เกิดอาการตาเหลือกหรือหลับตาได้ไม่สนิท ดังนั้นจึงควรเลือกแพทย์ที่ชำนาญในการผ่าตัดแก้ไขอาการหนังตาตกไว้ก่อน  แม้ว่าปกติแพทย์จะให้คนไข้หลับตาและลืมตาให้ดูในระหว่างผ่าตัด ว่าสามารถหลับตาได้สนิทดี และมีปัญหาเรื่องตาเหลือกหรือไม่เพื่อจะได้แก้ไขได้อย่างทันท่วงทีก็ตาม 

ในกรณีที่ตัดหนังตาออกมากเกินไป อาจแก้ไขโดยการไปคลายกล้ามเนื้อออกส่วนหนึ่ง หรืออาจจะต้องหาหนังส่วนอื่นมาเสริมซึ่งวิธีการนี้ค่อนข้างยุ่งยาก ความชำนาญและการประเมินของแพทย์ จึงเป็นสิ่งสำคัญมากเลยทีเดียวน่ะนะคะ

การดูแลตัวเอง หลังเข้ารับการผ่าตัดแก้ไขหนังตาตก

1. หลังการผ่าตัดจะต้องประคบตาด้วยความเย็น ประมาณ 3 วันเพื่อลดอาการบวมช้ำ พยายามให้แผลแห้งอยู่ตลอดเวลา พยายามอย่าให้มีคราบเลือดติดอยู่ที่แผล
2. ไม่ควรยกของหนัก  หลังเข้ารับการรักษาในวันแรกไม่ควรขับรถ
3. ไม่ขยี้ตารุนแรง
4. โดยทั่วไปจะนัดตัดไหมประมาณ 5 วันหลังการผ่าตัด หลังจากนั้นก็สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ
5. อาจจะรู้สึกบวม ตึงหนังตาบนบ้าง แต่อาการจะหายไปได้เองในที่สุดค่ะ



เรียบเรียงข้อมูลจาก http://www.mycosmeticbeauty.com
ภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต

วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2555

วิธีการแก้ไขและรักษาอาการหนังตาตกด้วยการผ่าตัด

สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ บล้อกบิวตี้ฟอร์ยูทุกท่าน

สภาวะ หนังตาตก นั้น ถือเป็นอีกหนึ่งความผิดปกติที่พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่น่ะนะคะ สาเหตุอาจเกิดจากความผิดปรกติของกล้ามเนื้อ เส้นเอ็นที่ยกหนังตา หรือเกิดจากเส้นประสาทที่เลี้ยงหนังตาผิดปรกติ รวมถึงอาจเกิดจากการที่มีก้อนบริเวณเปลือกตาทำให้หนังตามีการหย่อนยานมาปิดดวงตาได้


การเกิดสภาวะ หนังตาตก นั้นทำให้เกิดปัญหาในด้านความสวยงามและปัีญหาสุขภาพและการใช้ชีวิตประจำวันอยู่พอสมควรค่ะ ในวัยผู้ใหญ่ เมื่อหนังตาตก ก็จะทำให้เราดูมีอายุมากขึ้น แลดูเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้า เกิดการบดบังลานสายตาด้านบนจนต้องพยายามเบิ่งตาให้กว้างขึ้นเวลาเพ่งมองสิ่งต่างๆ หรือแม้แต่ในขณะอ่านหนังสือ จนในที่สุดอาจเกิดอาการปวดศรีษะ เนื่องจากต้องใช้กล้ามเนื้อหน้าผากในการช่วยยกหนังตาบนตลอดเวลา ดังนั้นเมื่อมีอาการหนังตาตก เราจึงควรเข้ารับการแก้ไข เพื่อให้การมองเห็นกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมอีกครั้งน่ะนะคะ

วิธีการรักษาและแก้ไขอาการหนังตาตกนั้น มีอยู่ด้วยกัน 2 วิธีค่ะ นั่นคือ แก้ไขด้วยวิธีผ่าตัด และอีกวิธีหนึ่ง ซึ่งเป็นวิธีที่ทันสมัยกว่าเดิมเป็นอันมาก นั่นก็คือการแก้ไขด้วยวิธีอื่น ๆ ซึ่งไม่ใช่วิธีผ่าตัด ซึ่งในวันนี้ บิวตี้ฟอร์ยู จะขอแนะนำวิธีการแก้ไขวิธีแรกกันก่อน นั่นก็คือ วิธีการแก้ไขหนังตาตกด้วยการผ่าตัดน่ะนะคะ

การ ผ่าตัดแก้ไขหนังตาตก นั้น ถือว่าเป็นการผ่าตัดขนาดเล็กที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อนเท่าใดนักค่ะ วิธีการเตรียมตัวของผู้เข้ารับการผ่าตัด ก็เหมือนกับการผ่าตัดทั่วไป ได้แก่ 

-แจ้งประวัติการแพ้ยา แจ้งชื่อยาหรืออาหารเสริมที่ใช้ในปัจจุบันก่อนเข้ารับการผ่าตัด
-หากมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หอบ โรคหัวใจ ควรปรึกษาแพทย์ที่ดูแล และแจ้งแพทย์ ผู้ทำการผ่าตัดด้วย
-งดยาแอสไพริน ไอบิวโพรเฟน และวิตามินอี ประมาณ 2 อาทิตย์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
-งดสูบบุหรี่ก่อน-หลังผ่าตัด 2 อาทิตย์

กระบวนการผ่าตัด จะใช้วิธีึฉีดยาชาเฉพาะที่ ในกรณีที่ หนังตาตก ในลักษณะที่มีหนังบริเวณนั้นมากเกินไป หลังจากฉีดยาชาแล้วแพทย์จะใช้มีดกรีดเพื่อเปิดแผลบริเวณรอยพับของชั้นตา (ถ้าคนไข้ไม่มีความหย่อนคล้อยมากอาจใช้การเจาะเป็น 3 จุดเล็กๆ ก็ได้) และทำการตัดหนังส่วนเกินออกไป หากมีไขมันมากก็จะเลาะไขมันออกไปด้วย โดยมากมักจะมีการเลาะไขมันและกล้ามเนื้อออกไปบางส่วน 


ในการผ่าตัดแพทย์มักจะใช้เลเซอร์ CO2 ช่วยในการเลาะค่ะ ซึ่งการใช้เลเซอร์ช่วยจะทำให้การผ่าตัดทำได้ละเอียดมากยิ่งขึ้น และยังช่วยให้เลือดออกน้อยลง ส่งผลให้เกิดอาการช้ำบวมน้อยกว่าการผ่าตัดธรรมดา


สำหรับการผ่าตัดคนไข้ที่มีกล้ามเนื้อตาตกข้างเดียว แพทย์มักจะทำการเย็บกล้ามเนื้อชั้นตาให้สูงขึ้นเพื่อให้ใกล้เคียงกับข้างที่ปกติ ความยากจึงอยู่ตรงที่ แพทย์จะต้องประเมินว่าจะต้องเย็บมากน้อยขนาดไหนเพื่อให้สองข้างพอดีกัน(การใช้เลเซอร์ช่วยในการผ่าตัดวิธีนี้ จะช่วยกระชับกล้ามเนื้อได้ดีในระดับหนึ่ง) แผลผ่าตัดจะซ่อนอยู่ระหว่างรอยพับของชั้นตา หลังผ่าตัดคนไข้สามารถกลับบ้านได้เลย ไม่จำเป็นต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาลน่ะนะคะ


ในตอนหน้าของบล้อกบิวตี้ฟอร์ยู เราจะมาดูผลลัพท์ที่ได้หลังจากการผ่าตัดแก้ไขอาการหนังตาตก และวิธีการดูแลตัวเองหลังเข้ารับการผ่าตัดน่ะนะคะ


แล้วกลับมาพบกันได้ใหม่ในครั้งหน้าค่ะ :)



เรียบเรียงข้อมูลจาก http://www.mycosmeticbeauty.com/
ภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต




เรื่องน่าอ่าน