ในสมัยก่อนหน้านี้ วิธีการกระชากวัย หรือชะลอวัยนั้นมักจะเน้นไปในเรื่องของการผ่าตัดค่ะ ดังจะเห็นได้ว่ามีผู้ที่ต้องการชะลอความเหี่ยวย่นหรือหย่อนคล้อยของใบหน้าด้วยการผ่าตัดดึงหน้าอยู่เป็นจำนวนไม่น้อย แต่ปัญหาของผู้ที่เลือกใช้วิธีการผ่าตัดก็คือ การที่ผู้เข้ารับการผ่าตัดต้องใช้เวลาในการพักฟื้นค่อนข้างนาน และมีผลข้างเคียงค่อนข้างมาก อีกทั้งยังมีราคาค่อนข้างสูงอีกด้วย จึงทำให้มีัการคิดค้นและพัฒนาวิืธีการชะลอวัยอื่น ๆ เพื่อนำมาใช้ในวงการแพทย์และความงามกันอย่างต่อเนื่อง
การ ยกกระชับด้วยการใช้เส้นไหมละลาย (Ultra thread lift ) จัดเป็นการยกกระชับอีกรูปแบบหนึ่งของการแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ที่มีการทำมาหลายปีค่ะ โดยเริ่มแรกนั้น มีการยกกระชับด้วย ไหมทองคำ(Gold Thread) ซึ่งแม้จะมีข้อดีที่เกิดรอยช้ำหลังทำน้อย แต่มีข้อเสียที่มีค่าใช้จ่ายสูงมาก และทำได้เฉพาะบางจุดบางบริเวณ เช่น ใบหน้า คอ แขนเท่านั้น นอกจากนั้นหลังทำ ก็ต้องเลี่ยงการสัมผัสความร้อนหรือทำทรีทเม้นต์ต่างๆ ที่ใบหน้า ที่สำคัญการร้อยเส้นไหมทองคำ หากมีความผิดพลาดเกิดขึ้น ก็ต้องผ่าตัดเอาไหมออกเพียงวิธีเดียว และไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสำหรับแพ้โลหะ เป็นต้นu
ปัจจุบันนี้ มีนวัตกรรมความงามใหม่ ที่เข้ามาช่วยให้ข้อด้อยของการใช้ไหมทองคำหมดไปค่ะ นั่นก็คือ การใช้เทคโนโลยี Ultra Thread Lifting ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วย ยกกระชับหน้า ใหม่ล่าสุด โดยใช้ ไหมละลาย ที่ผ่านรับรองจากองค์การอาหารและยาในต่างประเทศและในประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว ไหมที่ใช้ เป็นไหมชนิด Polydioxanone(PDO) น่ะนะคะ ซึ่งเป็นไหมละลายที่ใช้ในการเย็บผนังเส้นเลือดหัวใจ จึงมีโอกาสแพ้น้อยมาก และไม่มีผลปฏิกิริยาต่อผิวหนัง โดยไหมละลายชนิดนี้จะค่อยๆ สลายไปภายใน 6 เดือน ไม่เหลือตกค้างให้เกิดผลข้างเคียงภายหลัง
Ultra Thread Lifting(UTL) นั้น นอกจากจะให้ผลดีโดยเห็นผลของการยกกระชับทันทีหลังทำแล้ว ยังพบผลดีต่อเนื่องได้อีกด้วยนะคะ นั่นคือขณะที่ไหมละลายอยู่ใต้ผิวหนัง จะทำให้เกิดการอักเสบของผิวหนังที่ร้อยไหมเข้าไป จึงกระตุ้นการสร้างเส้นเลือดใหม่ (Local microcirculation) มีผลให้เกิดกระบวนการสร้างคอลลาเจนรอบๆ เส้นไหม ทำให้ผิวเกิดการดึงรั้ง และตึงกระชับขึ้น จะเห็นผลได้อย่างชัดเจนในช่วง 6 - 12 เดือน และ เห็นผลต่อเนื่องได้นานถึง 1-3 ปีเลยทีเดียวค่ะ
ในตอนหน้าของบล้อกบิวตี้ฟอร์ยู เราจะมาดูกันนะคะ ว่าไหมละลายนั้นสามารถช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้อย่างไร :)
แล้วกลับมาพบกับบล้อกบิวตี้ฟอร์ยูได้ใหม่ในครั้งหน้าค่ะ
เรียบเรียงข้อมูลจาก http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=639658829f7b7ac4&pli=1
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต